วันแรก |
สนามบินหาดใหญ่-วัดช้างไห้-วัดคูหาภิมุก-ชมวิวเขื่อนบางลาง-ป้ายโอเคเบตง-วงเวียนหอนาฬิกาเบตง-สตรีทอาร์ต-ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย-อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์-รูปปั้นไก่เบตง |
ตามเวลา |
รับคณะจากสนามบิน เพื่อเดินทางสู่เบตง |
แวะ |
ระหว่างทางแวะ วัดช้างไห้ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ของชาวยะลา ที่เป็นที่เคารพนับถือ ของชาวปักษ์ใต้ และนักท่องเที่ยวทั่วไป และในจังหวัดยะลา แวะอีกหนึ่งวัด คือ วัดคูหาภิมุข หรือ วัดหน้าถ้ำ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ผู้ใหญ่บ้านอาศัยอยู่ที่บ้านหน้าถ้ำ ได้สร้างวัดคูหาภิมุขเพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลในหมู่บ้าน ภายในวัดคูหาภิมุขมีถ้ำใหญ่ ประดิษฐาน พระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ ภายในถ้ำ ยังมีหินงอกหินย้อย และน้ำใสสะอาดไหลริน จากโขดหิน |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (1) |
จากนั้น |
เดินทางต่อสู่ เบตง ระหว่างทางแวะชมวิวที่ สะพานเขื่อนบางลาง ซึ่งเป็นสะพานข้ามเขื่อนที่มีวิวสวยงาม ต้นไม้สีเขียวขจีตลอดทั้งปี และชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างมีความสุข |
เมื่อ |
ได้เวลาที่เหมาะสมพาคณะเดินทางต่อสู่ ตัวเมืองเบตง ซึ่งในย่านเมืองเบตง
มีจุดท่องเที่ยว เช็คอินที่เป็นกระแส มากมาย ที่เราจะพาท่านไป เช่น |
|
1.ป้ายโอเคเบตง จุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาถึง อำเภอเบตง ซึ่งถูกสร้างขึ้นจนเป็นกระแส O. K. Betong
2.วงเวียนหอนาฬิกาเบตง หอนาฬิกาเมืองเบตงเป็นสิ่งก่อสร้างคู่เมืองเบตง โดยสร้างด้วยหินอ่อนจากจังหวัดยะลา เสน่ห์ที่คู่หอนาฬิกาคือ นกนางแอ่นนับพันตัวที่เกาะสายไฟบริเวณหอนาฬิกา ซึ่งมีจำนวนมากช่วงเดือนกันยายนถึงมีนาคม เพราะนกนางแอ่นเหล่านี้บินหนีความหนาวเย็นมาจากไซบีเรีย
3.เบตงสตรีทอาร์ต เป็นจุดถ่ายรูปในย่านเมืองเบตง มีอยู่ตามมุมตึกและอาคารต่างๆ ซึ่งรูปที่วาดก็จะเป็น ศิลปะวิถีของชาวเบตง การละเล่น อาชีพ ไก่เบตง เป็นต้น
4.ตู้ไปรษณีย์เบตง เป็นตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ลักษณะของตู้เป็นรูปทรงกลม และคอนกรีตเสริมเหล็ก มีเส้นรอบวงของตัวตู้ประมาณ 140 ซม. มีความสูงถึง 290 ซม. นับจากฐานขึ้นไป รวมความสูงทั้งหมดประมาณ 320 ซม. ให้ท่านแวะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
5.อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ ณ บริเวณถนนอมรฤทธิ์ ตัดกับถนนภักดีดำรงผ่านสวนสาธารณะออกสู่ถนน บริเวณหน้าสวนนก เชื่อมต่อกับถนนมงคลประจักษ์ ทะลุไปสู่ชุมชนเมืองใหม่หมู่บ้านแกรนด์วิว และเชื่อมต่อกับถนนอัยเยอร์เบอร์จัง ไปสู่ชุมชนธารน้ำทิพย์อีกทอดหนึ่ง
6.ประติมากรรมไก่เบตง สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเบตง เนื่องจากไก่สายพันธุ์นี้มีเฉพาะที่อำเภอเบตงเท่านั้น ซึ่งลักษณะเด่นของไก่เบตง คือ ตัวผู้มีปากสีเหลืองอ่อน ส่วนตัวเมียปากสีน้ำตาลเข้ม ตานูนใส หงอนจักร หัวกว้าง คอตั้งแข็งแรง มีขนสีเหลืองทองที่หัว ปีกสั้น อกกว้าง ขาใหญ่ หน้าแข้งกลม เล็บสีขาวอมเหลือง ซึ่งในช่วงต้นเดือนเมษายนอำเภอเบตงมีการจัดงานเทศกาลไก่เบตง
ขึ้นเป็นประจำทุกปีและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (2) |
พัก |
เข้าพัก ณ โรงแรมแกรนด์แมนดารินเบตง หรือ โรงแรมการ์เด้นวิวเบตง |
วันที่สอง |
สกายวอล์คชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง-สะพานแขวนแตปูซู-ร้านวุ้นดำต้นตำรับ (เฉาก๊วย ก.ม. 4)-สวนหมื่นบุปผา อุโมงค์ปิยะมิตร-บ่อน้ำพุร้อน-วัดพุทธาธิวาส-ด่านชายแดนไทย-มาเล-ป้ายใต้สุดแดนสยาม-ปีนัง |
04.30 น. |
ตื้นแต่เช้าตี 4 เพื่อเดินทางไปรอคิวยัง จุดขึ้นชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ซึ่งจำเป็นต้องต่อคิวตามลำดับทุกท่าน |
|
เมื่อรถตู้จอดที่ลานจอดแล้ว จะมีรถของทาง อบต.รับท่านพาขึ้นไปต่อคิวเพื่อเข้าชมจุดชมวิว Skywalk Betong ซึ่งท่านจะได้เห็นทะเลหมอกยามเช้าได้อย่างชัดเจน และตื่นเต้นกับ
การเดินสะพานกระจก ทำให้ได้ความรู้สึกตื่นเต้นไปอีกแบบ ยิ่งวันไหนฝนตกตอนกลางคืนจะมีหมอกมากเป็นพิเศษ ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ตั้งอยู่ที่ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิตของเบตงที่เดินทางสะดวกรถถึง และมีทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปี ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ไฮไลท์ของทะเลหมอกอัยเยอร์เวง คือ สกายวอล์คสูงจำนวน 6 ชั้น ที่สามารถชมวิวทะเลหมอกในมุมสูงเหมือนกำลังยืนเหนือทะเลหมอก และขุนเขาเขียวที่เรียงรายสลับซับซ้อน มีทางเดินลอยฟ้าทอดยาวไปจนสุดระเบียงกระจกวงกลม
ที่กลายเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามแปลกตา |
|
เมื่อท่านเที่ยวชม ทะเลหมอกเสร็จ ด้านล่างจะมีตลาดขายอาหารเช้า
เชิญท่านแวะเลือกซื้อและทานอาหารเช้าได้ตามอัธยาศัย |
จากนั้น |
พาท่านเดินทางต่อสู่ สะพานแตปูซู เป็นสะพานแขวนแบบพื้นไม้ ตั้งอยู่ ระหว่าง ที่ทำการดับเพลิง อบต.อัยเยอร์เวง กับที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 บ้าน กม.32 ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
มีความกว้าง 1.8 เมตร ยาวกว่า 100 เมตร ข้ามแม่น้ำปัตตานี
สร้างมาตั้งแต่สมัยอดีตกำนันตำบลอัยเยอร์เวง นายมูเซ็ง แตปูซู บิดาของนายมนเทียร แตปูซู กำนันตำบลอัยเยอร์เวง (เกษียณปี 2560 บิดาของนายอัครเดช
แตปูซู ผู้ใหญ่บ้าน กม.32 คนปัจจุบัน) ช่วยระดมพลังและเงินสมทบจากชาวบ้านร่วมกับราชการ ที่ไม่เพียงพอ เพราะต้องสั่งสายสลิง สำหรับยึดโยงตัวสะพานจากญี่ปุ่น ซึ่งสมัยนั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก |
แวะ |
ร้าน เฉาก๊วย ก.ม. 4 หรือ วุ้นดำต้นตำรับเบตง ท่านสามารถดูขั้นตอนการผลิดและชิมเฉาก๊วยเบตงจากเจ้าต้นตำหรับ พร้อมถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก |
จากนั้น |
พาท่านเดินทางสู่ สวนดอกไม้เมืองหนาว หรือ สวนหมื่นบุปผา ซึ่งเป็นการรวมรวมพรรณไม้และดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิดไว้ที่นี่ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และทางสวนจัดให้มีจุดถ่ายรูปมุมต่างๆ เยอะมากๆ |
จากนั้น |
พาท่านเดินทางสู่ อุโมงค์ปิยะมิตร อุโมงค์แห่งนี้ฝังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน กาลเวลาอาจทำให้ประวัติศาสตร์ของอุโมงค์ปิยะมิตรจืดจางลงไปจากความทรงจำ แต่ร่องรอยของสถานที่แห่งนี้กลับขับเน้นให้ได้ทบทวนถึงอดีต ด้วยความรู้สึกใหม่ แมกไม้นานาพรรณที่อยู่บริเวณปากทางเข้าอุโมงค์ปิยะมิตรนั้น ช่วยพรางอุโมงค์ความยาว 1 กิโลเมตร พาท่านเดินชมและถ่ายรูประหว่างทางกันอย่างจุใจ |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (3) |
บ่าย |
พาท่านเดินทางสู่ บ่อน้ำพุร้อน เชื่อกันว่า กรดกำมะถันนั้น มีสรรพคุณมากมายในการช่วยลดไขมัน บรรเทาอาการของโรคผิวหนังบางชนิด แก้โรคเหน็บชา และช่วยกระตุ้นจุดต่าง ๆ ของร่างกายให้ผ่อนคลาย บรรยากาศบริเวณรอบ ๆ น้ำพุร้อนเหมาะกับการพักผ่อนเพื่อสุขภาพ ให้ท่านมีเวลาในการนั่งแช่เท้าหรือเดินชมบรรยากาศโดยรอบสวนและบ่อน้ำพุร้อน |
จากนั้น |
พาท่านเดินทางสู่ วัดพุทธาธิวาส ตั้งอยู่บนเนินเขาในตัวเมืองเบตง เจดีย์ก่อสร้างแบบศรีวิชัยประยุกต์ สีทองอร่าม สูง 39.9 เมตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถในวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา ลักษณะเด่นของวัดนี้ พระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน
พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
วิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด วิหารพระครูพิศิษฐ์อรรถการ เชิญท่านสัการะตามความเชื่อหรือเดินถ่ายรูปโดยรอบได้ตามอัธยาศัย |
จากนั้น |
พาคณะเดินทางดูด่านเบตง เพื่อข้ามไปฝั่งมาเลเซีย แวะถ่ายรูปที่ ป้ายใต้สุดแดนสยาม ไว้เป็นที่ระลึก เพื่อแสดงให้เห็นว่าท่านเคยมายังดินแดนที่ใต้สุดของประเทศไทยติดกับประเทศมาเลเซีย |
เมื่อ |
ประทับตราหนังสือเดินทางทั้ง 2 ประเทศแล้วพาท่านนั่งรถตรงไปยัง รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (4) |
พัก |
เข้าพัก ณ NEO HOTEL หรือ ระดับเดียวกัน |
วันที่สาม |
เที่ยวปีนังเต็มวัน |
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5) |
08.00 น. |
พาท่านเที่ยวปีนัง ซิตี้ทัวร์จุดต่างๆ ในปีนัง ดังนี้ |
|
1.City Hall Penang ได้รับการออกแบบอย่างหรูหรา ภายนอกของอาคารแบบโคโลเนียลที่สวยงาม ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับกับตึกซิตี้ฮอลล์สีขาวโดดเด่นมากๆ ซิตี้ฮอลล์เป็นที่ตั้งราชกาลท้องถิ่นสำนักงานใหญ่ในเมืองจอร์จทาวน์ในปีนัง มาเลเซีย สร้างขึ้นโดยชาวอังกฤษปัจจุบันใช้เป็นที่ทำงานของสภาเทศบาลเมืองเกาะปีนัง
และเคยเป็นที่ตั้งของสภาเมืองจอร์จทาวน์ |
|
2.ป้อมปืนคอนวอลิส เป็นกำแพงกันฆ่าศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ปัจจุบันหลงเหลือไว้เพียงกำแพงเมืองขนาดใหญ่ และพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาความเป็นมา
และความสำคัญของป้อมปืนคอนวอลิส |
|
3.หอนาฬิกาควีนวิคตอเรีย หอนาฬิกาจูบิลีเป็นหอนาฬิกาจูบิลีสไตล์มัวร์ ตั้งอยู่ที่สี่แยกถนนไลท์และถนนชายหาดในจอร์จทาวน์ ปีนัง ประเทศมาเลเซีย หอคอยนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง Diamond Jubilee ของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย หอคอยสูงหกสิบฟุต หนึ่งฟุตในแต่ละปีของการครองราชย์
ของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย เรานั่งรถผ่านชม |
|
4.วงเวียนลูกหมาก ตั้งอยู่ที่เดียวกับหอนาฬิกาควีนวิคตอเรีย |
|
5. Penarakan House คฤหาสน์เปรานากัน (Pinang Peranakan Mansion) (ยังไม่รวมค่าเข้าชม 20 RM) ลักษณะจะเป็นคฤหาสน์ของตระกูลเก่า เสียดายที่ลูกหลานเจ้าของเดิมไม่สามารถรักษาไว้ได้ เลยต้องขายให้เศรษฐีปีนังรุ่นใหม่นำมาบูรณะปรับปรุงเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์
ให้เราได้เข้าชม ภายในคฤหาสน์เปรานากันในปีนังเต็มไปด้วยโบราณวัตถุและของสะสมกว่า 1,000 ชิ้น อาคารมีเอกลักษณ์ หลายส่วนของอาคารมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบจีน |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (6) |
บ่าย |
แวะพาท่านลองชิม ลอดช่องปีนังอันโด่งดัง ตามกระแส จากนั้นเดินทางสู่ ปีนังฮิลล์ (ยังไม่รวมค่าเข้าชม 30 RM) ท่านสามารถนั่งรถไฟรางเพื่อไปชมบรรยากาศของเมืองปีนังจากมุมสูง และถ่ายรูปเมืองปีนังจากมุมสูง หรือจะนั่งจิบชา กาแฟ ด้านบนก็มีขาย |
จากนั้น |
พาท่านแวะถ่ายรูปที่ ตึกจอร์ททาวน์ ตึกสีขาวเป็นเอกลักษณ์สไตล์ชิโนโปรตุกิส และพาท่านเดินชมบรรยากาศใน ปีนังสตรีทอาร์ท ที่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และขาดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปกับรูปวาดฝาผนังอันโด่งดังในย่านปีนังอาร์ทสตรีท |
เมื่อ |
ได้เวลาที่เหมาะสมพาคณะเดินทางสู่ Jew Jetty ย่านชุมชนประมงริมทะเล ที่มีวิถีชีวิตแบบประมงพื้นบ้าน และมีการสร้างบ้านริมทะเลปีนัง หมู่บ้านนี้กลายเป็นชุมชนเก่าแกที่มีวัฒนธรรมดังเดิม จนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม และเป็นอีกหนึ่งในมรดกโลกของประเทศมาเลเซีย เชิญท่านเดินถ่ายรูปตรงท่าเรือและมรชุมชนได้ตามอัธยาศัย |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (7) |
พัก |
เข้าพัก ณ โรงแมร NEO HOTEL เหมือนเดิม |
วันที่สี่ |
เกาะปีนัง-Design Village Outlet Mall-ด่านสะเดา-หาดใหญ่ |
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8) |
08.00 น. |
ออกเดินทางสู่ วัดไทยและวัดพม่า ซึ่งเป็น 2 วัดที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน เป็นที่เคารพนับถือของคนไทย และคนพม่า ที่มีสัญชาติมาเลเซีย ซึ่งเป็นเครือญาติของคนสมัยสงครามโลกครั้งที่2 |
จากนั้น |
พาคณะไปยัง ร้านของฝาก เพื่อซื่อของฝาก เช่น บักกุ๊ดเต๋ ชา กาแฟปีนัง และอื่นๆ อีกมากมาย |
เมื่อ |
ได้เวลาที่เหมาะสมพาคณะเดินทางกลับสู่ด่านสะเดา ข้ามผ่านสะพานปีนัง ซึ่งเป็นสะพานที่เคยยาวที่สุดในเอเชีย |
แวะ |
ระหว่างทางพาท่านแวะ Design Village Outlet Mall ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งใหม่ของปีนัง ตั้งอยู่ฝั่งบัตเตอร์เวิร์ท ให้ท่านมีเวลาในการเดินเลือกซื้อของฝาก หรือ เดินชมบรรยากาศภายในศูนย์การค้า |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (9) |
จากนั้น |
พาท่านเดินทางกลับสู่ ด่านสะเดา |
17.30 น. |
เวลาโดยประมาณถึงด่านสะเดา ผ่านด่านทั้ง 2 ประเทศ และพาท่านเดินทางต่อสู่หาดใหญ่ |
19.00 น. |
เวลาโดยประมาณ ส่งคณะที่สนามบินหาดใหญ่โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |